USDT คืออะไร? รู้จักเหรียญ Stablecoin ยอดนิยมอันดับหนึ่ง
Stablecoin เป็นอีกส่วนประกอบสำคัญที่ทำให้วงการคริปโทเคอร์เรนซีกลายเป็นที่รู้จักและมีการเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ผ่านการเป็นเครื่องมือที่เชื่อมต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิมและระบบการเงินแบบใหม่ และบทความนี้ Bitkub Blog จะมาเล่าเกี่ยวกับ USDT เหรียญ Stablecoin ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในโลกให้ครับ
USDT คืออะไร?
USDT (Tether USDt) ถูกสร้างโดยบริษัท Tether เป็น Stablecoins เหรียญแรก ๆ ที่ผูกมูลค่ากับสกุลเงิน Fiat ในอัตรา 1 USDT ต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ทำให้มูลค่าของ USDT ใกล้เคียงกับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งยังเป็น Stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตลาด โดยมีมูลค่าตลาดอยู่ที่ 96,000 ล้านดอลลาร์ (ข้อมูล ณ วันที่ 9 ก.พ. 2024)
หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้ USDT เป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในปัจจุบันมาจากการที่ USDT สามารถใช้งานบนเครือข่ายบล็อกเชนได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Solana, Tron, Algorand และอีกมากมาย ทำให้ผู้ใช้สามารถโอนมูลค่าข้ามบล็อกเชนและป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของมูลค่าคริปโตได้ง่ายขึ้น
ประโยชน์การใช้งาน USDT
1.การโอนเงินข้ามพรมแดน
ปัจจุบัน การโอนเงินข้ามพรมแดนจำเป็นต้องอาศัยตัวกลาง ซึ่งมาพร้อมกับระยะเวลาดำเนินการที่นานและค่าธรรมเนียมที่อาจสูงถึง 18–24% ส่งผลให้สูญเสียเงินไปโดยไม่เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจใด ๆ ยกตัวอย่าง ประเทศฟิลิปปินส์ ที่มีแรงงานในต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และแรงงานเหล่านี้ต้องส่งเงินกลับมาให้ครอบครัว จึงต้องใช้บริการตัวกลางอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ Tether เล็งเห็นปัญหาเรื้อรังดังกล่าว จึงพัฒนา USDT ที่อาศัยเทคโนโลยีบล็อกเชนในการดำเนินธุรกรรม ทำให้มีความสะดวก รวดเร็ว ค่าธรรมเนียมต่ำ และอาศัยเพียงการเชื่อมต่อทางอินเทอร์เน็ตเท่านั้น
2.ความมั่นคงทางมูลค่า
ความผันผวนและการเสื่อมค่าของสกุลเงินเป็นปัญหาที่หลายประเทศกำลังประสบ ยกตัวอย่าง สกุลเงินของประเทศเวเนซุเอลา ที่ประสบปัญหาเงินเฟ้อขั้นรุนแรงถึง 1,300,000% สกุลเงินดิจิทัลอย่าง USDT สามารถถูกใช้เป็นเครื่องมือในการรักษามูลค่าได้ เนื่องจากเป็นสกุลเงินที่มีการผูกมูลค่ากับดอลลาร์สหรัฐ ในอัตรา 1:1 อยู่เสมอ
3.การเข้าถึงสินทรัพย์ดิจิทัล
Stablecoin อย่าง USDT ช่วยทำให้เกิดแลกเปลี่ยนสกุลเงิน Fiat และสินทรัพย์ดิจิทัล รวมถึงการแลกสินทรัพย์ดิจิทัลกลับไปเป็นสกุลเงิน Fiat ได้อย่างง่ายดายและรวดเร็ว การแลกเปลี่ยนเช่นนี้ช่วยกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมทางเศรษฐกิจมากยิ่งขึ้น ซึ่งส่งผลต่อเนื่องให้ระบบเศรษฐกิจและระบบการเงินโดยรวมเติบโต
รู้จักบริษัท Tether
บริษัท Tether เกิดขึ้นมาพร้อมกับวิสัยทัศน์ “เพื่อดิสรัประบบการเงินแบบดั้งเดิม และเบิกทางไปสู่การใช้สกุลเงินแบบดั้งเดิมบนระบบดิจิทัล” ผ่านการให้บริการที่หลากหลาย อย่างการออกเหรียญ Stablecoin ต่าง ๆ รวมไปถึงการลงทุนในการขุด Bitcoin การศึกษา โครงสร้างพื้นฐานสำหรับระบบชำระเงินด้วย Bitcoin ตลอดจนการวิจัยและพัฒนาขั้นสูงที่เกี่ยวกับ Bitcoin
ไม่ใช่แค่ USDT เท่านั้นที่เป็น Stablecoin ของ Tether แต่ทางบริษัทฯ ยังได้ออก Stablecoin ที่ผูกมูลค่ากับสกุลเงินอื่น ๆ เพื่อตอบรับความต้องการของตลาดด้วย ได้แก่ยูโร หยวน เป็นต้น รวมถึงมีการออกเหรียญที่ผูกมูลค่ากับทองคำอย่าง Tether Gold (XAUt) อีกด้วย
เพื่อสร้างความโปร่งใสในการถือครองเหรียญเพื่อผูกมูลค่า ทาง Tether มีการออกรายงานคลังทรัพย์สำรองเป็นรายไตรมาสที่ได้รับการตรวจสอบบัญชีโดยบริษัทบัญชีระดับโลกอย่าง BDO เพื่อสร้างความโปร่งใสและความเชื่อมั่นของนักลงทุน
Stablecoin คืออะไร?
Stablecoin คือ สินทรัพย์ดิจิทัลที่มูลค่ามีความมั่นคงสูง จึงได้รับความนิยมในการถูกใช้เป็นตัวกลางในการซื้อขายแลกเปลี่ยนคริปโทเคอร์เรนซีหรือโทเคนดิจิทัลสกุลอื่น ๆ รวมไปถึงใช้งานร่วมกับ DeFi และการถือครองเพื่อเก็บรักษามูลค่า
วิธีที่ Stablecoin ใช้เพื่อรักษามูลค่าให้คงที่ก็คือการที่ผู้ออกเหรียญ Stablecoin อย่าง Tether จะเก็บเงินดอลลาร์ในมูลค่าที่เท่ากับจำนวน USDT ทั้งหมดที่มีในตลาดไว้ในคลังสินทรัพย์สำรอง ยกตัวอย่าง หากปัจจุบันมี USDT หมุนเวียนในตลาด 1 ล้านเหรียญ ทาง Tether ก็ต้องถือเงินดอลลาร์เป็นมูลค่า 1 ล้านดอลลาร์ไว้ในคลังสำรอง เผื่อในกรณีที่ผู้ถือเหรียญอยากแลกเป็นเงินดอลลาร์ก็จะสามารถทำได้ทันที นั่นจึงทำให้ USDT มีมูลค่าใกล้เคียงกับดอลลาร์ตลอดเวลา
จุดเด่นของ USDT
1.มูลค่าที่มั่นคง
USDT สามารถรักษามูลค่าให้เทียบเท่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ได้อย่างมีประสิทธิภาพเนื่องจากมีสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐถูกจัดเก็บไว้ในคลังสำรองเทียบเท่ากับมูลค่าของ USDT ที่หมุนเวียนอยู่ในตลาด อีกทั้งยังมีบริษัทตรวจสอบทางด้านบัญชีชั้นนำคอยตรวจสอบและออกรายงานทุกไตรมาสเพื่อสร้างความโปร่งใสและความมั่นใจให้กับผู้ใช้
ตรวจสอบสินทรัพย์ในคลังสำรองของ Tether ได้ที่: Tether’s report and reserves
2.อิสระในการใช้งาน
ในระบบการเงินแบบดั้งเดิม เรามักไม่ได้มีสิทธิ์ควบคุมเงินที่เราได้มาโดยสมบูรณ์ ธนาคารสามารถสั่งอาญัติบัญชี หรือห้ามนำเงินออกนอกประเทศก็ได้ แตกต่างกับ USDT ที่ผู้ใช้มีอิสระในเงินของตัวเองอย่างเต็มที่ ผู้ใช้สามารถโอนเงินไปที่ไหน เมื่อไหร่ หรือมากน้อยแค่ไหนก็ได้ โดยสามารถทำธุรกรรมผ่านบล็อกเชนที่ทำงานตลอดเวลา
3.ความเร็วและค่าธรรมเนียมต่ำ: เทคโนโลยีบล็อกเชนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาตัวกลางในการโอนเงิน การโอนเงินด้วย USDT ผ่านบล็อกเชนจึงสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและมีค่าธรรมเนียมที่ต่ำมาก เฉลี่ยประมาณ1.02 ดอลลาร์บนเครือข่าย Ethereum และเพียง 0.000005 ดอลลาร์บนเครือข่าย Tron
4.เข้าถึงได้ง่าย: ปัจจุบัน USDT รองรับการทำงานบนเครือข่ายบล็อกเชนชั้นนำที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Ethereum, Tron, Algorand, Avalanche, EOS, Liquid Network, Near, Omni, Polygon, Solana, Bitcoin Cash’s Standard Ledger Protocol, Statemine, Statemint และ Tezos ผู้ใช้จึงสามารถเลือกใช้งานได้บนเครือข่ายที่สะดวกได้อย่างง่ายดาย
5. Stablecoin อันดับหนึ่ง: USDT เป็น Stablecoin ที่มีความน่าเชื่อถือและมีการใช้งานมากที่สุดในระบบการเงินดิจิทัล เห็นได้จากมูลค่าตลาดอับดับหนึ่งในหมวดหมู่ Stablecoin และอันดับที่ 3 ในตลาดคริปโตเคอร์เรนซี โดยมีมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่ประมาณ 3.2 ล้านล้านบาท และมีอุปทานที่หมุนเวียนในตลาดอยู่ที่ 9.4 หมื่นล้าน USDT (อ้างอิงข้อมูลจาก Coingecko ณ วันที่ 9 มกราคม 2024)
USDT แตกต่างกับ Bitcoin และเงินดอลลาร์อย่างไร?
จุดแตกต่างที่เห็นได้ชัดที่สุดก็คือด้านมูลค่า โดยมูลค่าของ Bitcoin จะผันผวนไปตามความต้องการของตลาด ขณะที่ Stablecoin อย่าง USDT จะมีมูลค่าที่ค่อนข้างคงที่ตามชื่อของมัน Stablecoin จึงเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญในการเชื่อมต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับระบบการเงินแบบใหม่ ทำให้ผู้ใช้สามารถโยกย้ายเงินเข้าหรือออกจาก Bitcoin ได้ง่ายยิ่งขึ้น
ในขณะเดียวกัน USDT ก็มีความแตกต่างกับสกุลเงินเฟียตอย่างดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจาก USDT ไม่ได้ถูกออกโดยภาครัฐและไม่ถูกจำกัดขอบเขตเพียงแค่ในประเทศใดประเทศหนึ่ง นี่จึงเป็นอีกข้อได้เปรียบของ Stablecoin โดยเฉพาะในประเทศที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจอย่างเงินเฟ้อ ส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถเข้าถึงสกุลเงินที่มีความมั่นคงอย่างดอลลาร์สหรัฐได้ แต่ถ้าเป็น Stablecoin ขอแค่ผู้ใช้มีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต พวกเขาก็สามารถเข้าถึงสกุลเงินที่มีความมั่นคงได้โดยไม่ติดข้อจำกัดทางภูมิศาสตร์แล้ว
Stablecoin มีกี่ประเภท
1. Fiat-backed stablecoins
Stablecoin ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ก็คือ Fiat-backed stablecoins ที่ผูกมูลค่าตามเงินเฟียต โดยเหรียญในกลุ่มนี้มีความมั่นคงสูงที่สุด เนื่องจากมูลค่าของ Stablecoin จะอ้างอิงตามค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ รวมถึงสกุลเงินเฟียตอื่น ๆ ที่อัตรา 1 ต่อ 1
2.Commodity-backed stablecoins
Commodity-backed stablecoins จะผูกมูลค่ากับสินค้าโภคภัณฑ์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น น้ำมัน ทองคำ ที่ดิน ฯลฯ แต่อาจจะยังไม่ได้รับความนิยมมากเท่าไหร่ เนื่องจาก Stablecoin ประเภทนี้ยังขัดกับกฎหมายหลักทรัพย์ของหลายประเทศทั่วโลก
3.Algorithmic stablecoins
Algorithmic stablecoins คงมูลค่าโดยใช้อัลกอริทึมของบล็อกเชนควบคุมมูลค่าของเหรียญ เช่น หากเหรียญมีมูลค่าขึ้นไปอยู่ที่ 3 ดอลลาร์สหรัฐฯ ระบบก็จะสร้างเหรียญเพิ่มเข้ามาทำให้มูลค่าของเหรียญตกลงมาที่ 1 ต่อ 1 ตามหลักอุปสงค์อุปทาน แต่ Stablecoin ประเภทนี้ก็นับว่ามีความเสี่ยงสูงที่สุด และแทบไม่ค่อยมีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จเลย
สรุป
USDT (Tether USDt) เป็น Stablecoins ที่ถูกสร้างขึ้นโดยบริษัท Tether ผูกมูลค่ากับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐในอัตรา 1 ต่อ 1 ทำให้มูลค่าของ USDT ใกล้เคียงกับ 1 ดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้ USDT มีบทบาทสำคัญในการเชื่อมต่อระบบการเงินแบบดั้งเดิมเข้ากับระบบการเงินแบบใหม่ และยังเป็น Stablecoin ที่มีมูลค่าตลาดสูงที่สุดในปัจจุบัน
อ้างอิง Coinmarketcap, Tether
_________________________________________
*คริปโทเคอร์เรนซีและโทเคนดิจิทัลมีความเสี่ยงสูง ท่านอาจสูญเสียเงินลงทุนได้ทั้งจํานวน โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
**สินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยง โปรดศึกษาและลงทุนให้เหมาะสมกับระดับความเสี่ยงที่ยอมรับได้
***ผลตอบแทนของสินทรัพย์ดิจิทัลในอดีตหรือผลการดําเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลตอบแทน ของสินทรัพย์ดิจิทัลหรือผลการดําเนินงานในอนาคต
_________________________________________
What is USDT? Get to know the Most Popular Stablecoin.
Stablecoins are another essential element that has transformed the cryptocurrency industry into a widely recognized and continuously growing sector. They act as a tool connecting traditional financial systems and new financial systems. In this article, Bitkub Blog will discuss USDT, the stablecoin with the highest market value in the world.
What is USDT?
USDT (Tether USDt) is created by the company Tether and is one of the first stablecoins that pegs its value to fiat currency at a 1:1 ratio with the United States Dollar. This pegging mechanism ensures that the value of USDT remains close to 1 USD. USDT is the most popular stablecoin in the market, with a market capitalization of $96 Billion as of February 9, 2023.
One of the factors contributing to USDT being the highest market value stablecoin is its versatility in operating on various blockchain networks. It can be utilized on networks such as Ethereum, Solana, Tron, Algorand, and many more. This flexibility allows users to easily transfer value across blockchains and mitigate the risks associated with cryptocurrency value fluctuations.
Benefits of Using USDT
1.Cross-Border Money Transfers
Currently, cross-border money transfers often rely on intermediaries, resulting in lengthy processing times and high fees, sometimes reaching up to 18–24%. This leads to economic losses without significant benefits. For example, countries like the Philippines, with a significant overseas workforce, face challenges when sending money back home to their families. Tether recognizes these challenges and has developed USDT, utilizing blockchain technology for transactions. This approach offers convenience, speed, low fees, and requires only an internet connection.
2.Value Stability
The volatility and depreciation of currencies pose challenges for many countries. For instance, Venezuela has experienced severe hyperinflation, reaching up to 1,300,000%. Digital currencies like USDT can be used as a tool to maintain value stability because they are pegged to the US dollar at a 1:1 ratio, providing a constant value.
3.Access to Digital Assets
Stablecoins like USDT facilitate the exchange of fiat currencies and digital assets, allowing for easy and fast conversion of digital assets back into fiat currencies. Such exchanges stimulate economic activities, contributing to the overall growth of the economy and the financial system.
Get to know Tether
Tether was established with the vision of being “a disruptor to the conventional financial system and a trailblazer in the digital use of traditional currencies.” The company offers a variety of services, including issuing various stablecoins, investing in Bitcoin mining, studying infrastructure for Bitcoin payment systems, and engaging in advanced research and development related to Bitcoin.
Tether does not limit itself to just USDT as its stablecoin; the company has also issued stablecoins pegged to other currencies to meet market demands. These include the Euro, Yuan, and more.
Tether also issues quarterly reserve reports that are audited by globally recognized accounting firms such as BDO. This commitment aims to enhance transparency and investor’s confidence.
What is a Stablecoin?
A Stablecoin is a digital asset with a consistently stable value, making it popular for use as a medium of exchange in cryptocurrency and digital token exchanges, and in conjunction with DeFi (Decentralized Finance) for value preservation.
The method by which Stablecoins maintain a stable value is through the issuer, such as Tether, holding a reserve of assets equivalent to the total amount of Stablecoins in circulation. For example, if there are 1 million USDT circulating in the market, Tether would hold $1 million worth of dollars in a reserve. This ensures that holders of the stablecoin can instantly exchange it for dollars, maintaining a value close to the dollar.
Advantages of USDT
1. Stability of Value
USDT can maintain its value equivalent to the United States Dollar due to the fact that the US dollars backing USDT are held in reserve, matching the circulating value of USDT in the market. Additionally, leading accounting firms regularly audit and report on Tether’s reserves to ensure transparency and build confidence among users.
Verify Tether’s asset reserves report here.
2.Freedom in Usage
In traditional financial systems, individuals often lack complete control over their money. Banks can freeze or restrict accounts, and there are restrictions on taking money out of the country. In contrast, USDT provides users with full control over their funds. Users can transfer money wherever, whenever, and in any amount, conducting transactions through the blockchain seamlessly.
3.Speed and Low Fees
Blockchain technology eliminates the need for intermediaries in money transfers. Transferring funds with USDT via blockchain is fast and incurs very low fees. On average, it costs approximately $1.02 on the Ethereum network and only $0.000005 on the Tron network.
4.Easy Accessibility
Currently, USDT is compatible with various leading blockchain networks, including Ethereum, Tron, Algorand, Avalanche, EOS, Liquid Network, Near, Omni, Polygon, Solana, Bitcoin Cash’s Standard Ledger Protocol, Statemine, Statemint, and Tezos. Users can easily choose the network that suits them best.
5.Top Stablecoin
USDT is the most trusted and widely used stablecoin in the digital financial system. It holds the top position in the Stablecoin category and ranks third in the overall cryptocurrency market with a total market capitalization of approximately 3.2 trillion Thai Baht and a circulating supply of 9.4 trillion USDT (as of January 9, 2024, according to Coingecko).
How is USDT different from Bitcoin and the US Dollar?
The most evident difference lies in their values. The value of Bitcoin fluctuates according to market demand, while a Stablecoin like USDT maintains a relatively constant value, as implied by its name. Stablecoins, therefore, play a crucial role in bridging traditional financial systems with Bitcoin’s financial system, allowing users to easily move funds in and out of Bitcoin.
At the same time, USDT differs from fiat currencies like the US Dollar, as it is not issued by any government and is not restricted to any specific country. This is a notable advantage of Stablecoins, especially in countries facing economic challenges such as hyperinflation. In such cases, the population may find it difficult to access a stable currency like the US Dollar. However, with Stablecoins, as long as users have internet access, they can access a stable currency without geographical limitations.
How many types of Stablecoins are there?
1.Fiat-backed stablecoins:
The most popular type of Stablecoin is the Fiat-backed stablecoin, which pegs its value to fiat currencies. Coins in this category are the most stable since the value is directly tied to the US Dollar or other fiat currencies at a 1:1 ratio.
2.Commodity-backed stablecoins:
Commodity-backed stablecoins are pegged to various commodities such as oil, gold, land, etc. However, this type of Stablecoin may not be as popular due to legal challenges related to securities regulations in many countries globally.
3.Algorithmic stablecoins:
Algorithmic stablecoins maintain their value using blockchain-based algorithms to control the coin’s value. For example, if the coin’s value rises to $3 USD, the system generates more coins to bring the value back down to 1:1. However, this type of Stablecoin is considered the riskiest and has had limited success.
Summary
USDT (Tether USDt) is a Fiat-backed Stablecoin created by Tether Limited, pegging its value to the US Dollar at a 1:1 ratio. This pegging mechanism keeps the value of USDT close to $1 USD. USDT plays a crucial role in bridging traditional financial systems with the new financial system and is currently the highest market value Stablecoin.
